ปกป้ององค์กรของคุณจากแฮกเกอร์ด้วย Network Segmentation ต้องทำอย่างไร?
สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกคน สำหรับในปีนี้แอดมินมีบทความที่น่าสนใจมาแนะนำค่ะ
เริ่มต้นด้วยการเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับองค์กรของคุณกันค่ะ รู้หรือไม่? ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์เพิ่มขึ้นทุกวัน วิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพและได้รับความนิยมที่สุดวิธีหนึ่งก็คือ การแบ่งส่วนเครือข่าย (Network Segmentation)
ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้ระบบ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ได้อย่างชัดเจน
มาดูกันว่า Network Segmentation จะช่วยองค์กรของคุณได้อย่างไร และทำไมถึงกลายเป็นแนวทางสำคัญในยุคดิจิทัลนี้!
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมีภัยคุกคาม และถูกโจมตีอยู่เป็นประจำ การเพิ่มความแข็งแกร่งในการต่อสู้กับภัยคุกคามเหล่านี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง และวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพวิธีหนึ่ง คือการทำ Network Segmentation หรือ การแบ่งโซนเครือข่ายออกเป็นหน่วยย่อยๆ เพื่อจำกัดวงในการแพร่กระจายของข้อมูลในเครือข่าย ซึ่งจะส่งผลไปถึงการป้องกันภัยคุกคามในเครือข่ายได้อีกด้วย
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่สามารถถูกแบ่งย่อยเป็นส่วนเล็กๆ โดยคำว่า การแยกส่วนเครือข่าย (Network Segregation), การจัดแบ่งสัดส่วนเครือข่าย (Network Partitioning) และการแยกกักเครือข่าย (Network Isolation) ล้วนหมายถึงสิ่งเดียวกันกับ “การแบ่งส่วนเครือข่าย” (Network Segmentation) วัตถุประสงค์ของการแบ่งส่วนเครือข่ายคือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเครือข่าย การแบ่งส่วนเครือข่ายมีความสำคัญ โดยเฉพาะสำหรับองค์กรที่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการป้องกันข้อมูลในด้านสุขภาพ การเงิน หรือ อุตสาหกรรม OT/ICS เช่น HIPAA, PCI-DSS และ IEC-62443 ซึ่งช่วยปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ข้อมูลของบริษัท รวมถึงสายการผลิตในอุตสาหกรรม จากผู้ใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาต
ไม่ว่าคุณจะพยายามเพิ่มความปลอดภัยในโครงสร้างพื้นฐานของคุณหรือทำให้สอดคล้องกับระเบียบข้อบังคับต่างๆ การแบ่งส่วนเครือข่ายเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของโปรแกรมความปลอดภัยข้อมูลที่ครอบคลุม อุปกรณ์ เซิร์ฟเวอร์ และแอปพลิเคชันขององค์กรของคุณ สิ่งเหล่านี้จะถูกแยกออกจากเครือข่ายอื่นๆ โดยการแบ่งเครือข่ายขนาดใหญ่ออกเป็นเครือข่ายย่อยที่เล็กลง ผู้โจมตีที่สามารถเจาะระบบด่านแรกได้สำเร็จจะถูกจำกัดอยู่ในเพียงแค่ส่วนของเครือข่ายที่พวกเขาสามารถเข้าถึงได้
ปัจจุบัน หลายองค์กรมีการนำการแบ่งส่วนเครือข่ายไปใช้ เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยด้าน IT/OT และลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ ในบทความนี้จะกล่าวถึงแง่มุมต่างๆ ของการแบ่งส่วนเครือข่ายอย่างสั้นๆ เช่น
- Network Segmentation คืออะไร ?
- ทำไม Network Segmentation จึงสำคัญ ?
- ประเภทของ Network Segmentation มีอะไรบ้าง ?
- Network Segmentation มีวิธี implement อย่างไรบ้าง ?
- ประโยชน์ของ Network Segmentation
- ใครที่ต้องการ Network Segmentation ?
- ข้อควรปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) สำหรับ Network Segmentation
- ตัวอย่างของ Network Segmentation
Network Segmentation คืออะไร?
Network Segmentation เป็นแนวทางเชิงสถาปัตยกรรมที่แบ่งย่อยเครือข่ายขนาดใหญ่ออกเป็นหลายส่วน หรือ Subnet โดยแต่ละส่วนจะทำหน้าที่เป็นเครือข่ายขนาดเล็กและใช้โปรโตคอลหรือนโยบายความปลอดภัยแยกกันในแต่ละโซนเพื่อจัดการความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะต้องแยกทราฟฟิคกระแสการไหลของข้อมูลระหว่างโซนเครือข่ายโดยใช้เครือข่ายเสมือน (VLAN) ตามด้วยความปลอดภัยผ่านไฟร์วอลล์เพื่อปกป้องแอปพลิเคชันและข้อมูล
Network Segmentation ได้รับการยกระดับให้เป็นวิธีการที่สร้างความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากช่วยให้สามารถสร้างและดูแล “นโยบาย” สำหรับโซนเครือข่ายที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถกักกันพื้นที่ที่ถูกเจาะเข้ามาโดยไม่กระทบต่อทั้งระบบหรือเครือข่ายขององค์กร อุปกรณ์ในโซนเครือข่ายเดียวกันสามารถสื่อสารกันโดยตรง แต่การสื่อสารกับอุปกรณ์ข้ามโซนจะต้องมีการผ่าน “จุดแยกส่วน” (จุดแยกส่วนโดยทั่วไปคือ Router หรือ Firewall) ซึ่งที่จุดแยกส่วนนี่แหละที่เราสามารถตรวจสอบข้อมูลในเครือข่าย และบังคับใช้มาตรการนโยบายความปลอดภัยได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยรวมของระบบ
Cr. https://www.zenarmor.com/
Network Segmentation มีความสำคัญอย่างไร
ในโลกปัจจุบัน แม้แต่ในธุรกิจขนาดเล็ก ระบบ IT ก็ยังมีการจัดเก็บข้อมูลขนาดหลายเทราไบต์ และขนาดของข้อมูลก็เพิ่มขึ้นทุกวัน ในระบบ OT เองก็เช่นกัน โดยเฉพาะใน Purdue Level 3 ที่เป็นระบบ MES ซึ่งเป็นส่วนที่จัดเก็บข้อมูลในการผลิต นอกจากนี้ ข้อมูลในโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายไม่ได้มีความสำคัญเท่ากันทั้งหมด แม้ว่าข้อมูลบางส่วนอาจดูเป็นขยะ แต่ข้อมูลบางส่วนมีความสำคัญต่อภารกิจขององค์กรและจำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่การรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งหมดด้วยวิธีเดียวกันนั้นไม่สามารถทำได้จริงและมีค่าใช้จ่ายสูง เพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน จำเป็นต้องมีการแบ่งส่วนเครือข่ายที่เข้มงวดซึ่งใช้ทั้งการแยกทางกายภาพและทางตรรกะร่วมกัน
ธุรกิจเกือบทั้งหมด ทั้งภาครัฐและเอกชน จะต้องเพิ่มระดับความพร้อมในการรับมือกับอาชญากรรมทางไซเบอร์อย่างจริงจัง มีทั้งกฎหมาย และระเบียบข้อบังคับมากมาย ได้ขยายข้อกำหนดด้านความปลอดภัยข้อมูลของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น GDPR, PDPA, ISO27001, JAMA/JAPIA ซึ่งมีทั้งการกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงสำหรับการจัดการข้อมูล ส่วนบุคคลอย่างไม่เหมาะสม ที่สำคัญที่สุด ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นปัญหาเชิงกลยุทธ์ที่ส่งผลต่อการเติบโต ผลกำไร ความสามารถในการแข่งขัน และแนวโน้มในอนาคตขององค์กร “ขั้นตอนการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมักมีค่าใช้จ่ายที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น”
องค์กรแทบทุกแห่งมีการใช้งานไฟร์วอลล์เพื่อป้องกันตัวเองจากการโจมตีทางไซเบอร์ แต่ปัญหาคือผู้โจมตีที่ชาญฉลาดมักจะคิดหาวิธีเจาะไฟร์วอลล์เหล่านี้ หรือซ่อนมัลแวร์ในแพ็คเก็ตเครือข่ายที่ดูเหมือนจะปกติถูกต้องตามกฎหมายและนโยบาย อันตรายเหล่านี้จะไหลเข้าสู่องค์กร เมื่อเข้าไปในเครือข่ายของบริษัทแล้ว การโจมตีจะส่งผลกระทบโดยแพร่กระจายและเข้าถึงทรัพย์สินที่มีค่า เช่น ข้อมูลผู้ถือบัตร บันทึกทางการเงินขององค์กร อุปกรณ์ IoT เครื่องจักร หน่วยการผลิตทางอุตสาหกรรม หรืออาจปิดเซอวิส หรือเข้ารหัสล๊อคข้อมูลที่สำคัญเพื่อแลกกับเงินค่าไถ่
เพื่อลดความเสี่ยงของภัยคุกคามทางไซเบอร์และจำกัดผลกระทบ ควรมีการแบ่งส่วนเครือข่าย หากไม่มีการแบ่งส่วนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT/OT จะมีความเสี่ยงสูงที่ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจะรั่วไหลหรือถูกแก้ไขดัดแปลง รวมถึงไวรัสคอมพิวเตอร์และมัลแวร์จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและง่ายดาย
การแบ่งส่วนเครือข่ายเป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุดวิธีหนึ่งต่อ “การละเมิดข้อมูล” การติดมัลแวร์ และความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ประเภทอื่นๆ โซนโหนดปลายทาง (Endpoint) เช่น เดสก์ท็อปและเซิร์ฟเวอร์ ในเครือข่ายที่แบ่งส่วนอย่างเหมาะสมจะมีเพียงการเชื่อมต่อที่จำเป็นสำหรับการใช้งานที่เหมาะสมและถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น สิ่งนี้จะจำกัดความสามารถในการแพร่กระจายของมัลแวร์ จำกัดความสามารถของผู้โจมตีใน “การบุกรุกจากระบบหนึ่งไปยังอีกระบบหนึ่ง”
การแบ่งส่วนเครือข่ายจะให้ความสำคัญอย่างชัดเจนต่อการแยกเก็บรักษาข้อมูลและทำให้องค์กรมีโอกาสมากขึ้นในการจำกัดการแพร่กระจายของการบุกรุกเครือข่าย ตัวอย่างเช่น การรับส่งข้อมูลของ Guest ไม่จำเป็นที่จะเข้าถึงข้อมูลของแผนกการเงิน และแอปพลิเคชันของฝ่าย Operation ไม่ควรเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล การแบ่งส่วนเครือข่ายจะสร้างขอบเขตที่เข้มงวดและชัดเจนระหว่างกลุ่มเครือข่ายต่างๆ และการนำไฟร์วอลล์มาใช้จะปกป้องเครือข่ายจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาอย่างหนึ่งในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลก็คือการแบ่งส่วนเครือข่าย
การแบ่งส่วนเครือข่ายจะป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์หมวกดำ (Black Hat Hacker จอมวายร้ายที่เจาะระบบอย่างผิดกฏหมาย) และภัยคุกคามทางไซเบอร์แพร่กระจายไปในแนวราบของเครือข่ายองค์กร เครือข่ายมหาวิทยาลัย ไปจนถึงสภาพแวดล้อมคลาวด์ ภัยคุกคามทางไซเบอร์จะถูกจำกัดอยู่ใน network segment หรือ host segment ซึ่งเป็นส่วนที่เป็นด่านแรก เพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์เข้าถึงส่วนอื่นๆ ของเครือข่าย Incident ของการบุกรุกในเบื้องต้นเหล่านี้จะถูกจำกัดไว้ และปลอดภัยจากภัยคุกคามเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี
อ่านมาจนถึงตรงนี้ ทุกท่านคงตระหนักรู้ถึงความสำคัญและความจำเป็นในการทำ Network Segmentation กันแล้ว ในบทความหน้า เราจะมาดูกันว่า Network Segmentation มีแบบไหนบ้าง แล้วแบบต่างๆ มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร และจะมีวิธีอย่างไร ในการเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับองค์กร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.zenarmor.com/docs/network-basics/network-segmentation#2-network-segmentation
หากต้องการอ่านบทความด้วย
Platform Facebook คลิกที่ลิงก์: ปกป้ององค์กรของคุณจากแฮกเกอร์ด้วย Network Segmentation ต้องทำอย่างไร?
Platform Line OA คลิกที่ลิงก์: ปกป้ององค์กรของคุณจากแฮกเกอร์ด้วย Network Segmentation ต้องทำอย่างไร?
อย่ารอช้า! มาปกป้ององค์กรของคุณตั้งแต่วันนี้
Netmarks (Thailand) พร้อมช่วยคุณยกระดับความปลอดภัยของเครือข่ายด้วยโซลูชัน Network Segmentation ที่ครอบคลุมและออกแบบเฉพาะสำหรับองค์กรของคุณ
ติดต่อสอบถาม Netmarks ได้ที่
Website Contact Us: https://www.netmarks.co.th/contact-us
E-mail: marketing@netmarks.co.th
Facebook: Netmarks Thailand
Line OA: @netmarksth
Tel: 0-2726-9600